Data Governance: วางรากฐานข้อมูลให้มั่น ก่อนสร้างนวัตกรรม

Data Governance: วางรากฐานข้อมูลให้มั่น ก่อนสร้างนวัตกรรม
By ChatGPT 💬

Data Governance หรือ ธรรมาภิบาลข้อมูล คือ กระบวนการและโครงสร้างที่กำหนดวิธีที่องค์กรจัดการข้อมูลของตน ตั้งแต่การสร้าง จัดเก็บ ประมวลผล ไปจนถึงการทำลายข้อมูล เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลมีความถูกต้อง ครบถ้วน น่าเชื่อถือ ปลอดภัย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


โดยสรุป Data Governance เป็นการสร้าง "กฎ กติกา และความรับผิดชอบ" ในการใช้ข้อมูลทั่วทั้งองค์กร เพื่อให้ทุกคนทำงานกับข้อมูลในทิศทางเดียวกัน ข้อมูลมีคุณภาพ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลผิดพลาดหรือไม่เหมาะสม


ทำไม Data Governance ถึงสำคัญ?

  • คุณภาพข้อมูลที่ดีขึ้น: ช่วยให้ข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วน และเชื่อถือได้ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการตัดสินใจทางธุรกิจ
  • การปฏิบัติตามกฎระเบียบ: ช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ เช่น PDPA (Personal Data Protection Act) ได้อย่างถูกต้อง
  • ความปลอดภัยของข้อมูล: กำหนดนโยบายและมาตรการในการปกป้องข้อมูลจากการเข้าถึง การทำลาย หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • เพิ่มมูลค่าจากข้อมูล: เมื่อข้อมูลมีคุณภาพและจัดการอย่างเป็นระบบ องค์กรจะสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ สร้างสรรค์นวัตกรรม และขับเคลื่อนธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
  • ลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่าย: ช่วยลดความผิดพลาดในการใช้ข้อมูล ลดค่าใช้จ่ายในการแก้ไขข้อมูล และลดความเสี่ยงทางกฎหมาย


แนวทางสำหรับคนทำงานสาย Data
คนทำงานสาย Data ไม่ว่าจะเป็น Data Analyst, Data Scientist, Data Engineer หรือ Data Steward ล้วนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนและปฏิบัติตามหลัก Data Governance

สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้

1) ทำความเข้าใจนโยบายและมาตรฐานข้อมูลขององค์กร

  • ศึกษาคู่มือและเอกสาร: ทำความเข้าใจนโยบาย กฎเกณฑ์ และมาตรฐานที่องค์กรกำหนดไว้สำหรับการจัดการข้อมูล เช่น วิธีการจัดเก็บ การตั้งชื่อ การจัดหมวดหมู่ การเข้าถึง และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
  • รู้ถึงแหล่งข้อมูลหลัก (Source of Truth): ตระหนักว่าข้อมูลใดคือแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และควรนำมาใช้เป็นหลักในการวิเคราะห์หรือสร้างโมเดล

2) เน้นคุณภาพข้อมูล (Data Quality)

  • ตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์: ก่อนนำข้อมูลไปใช้ ควรตรวจสอบความถูกต้อง (Accuracy), ความครบถ้วน (Completeness), ความสอดคล้อง (Consistency), ความทันสมัย (Timeliness) และความเฉพาะเจาะจง (Uniqueness) ของข้อมูล
  • บันทึกปัญหาข้อมูล: หากพบความผิดปกติหรือข้อบกพร่องในข้อมูล ควรบันทึกและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อให้มีการแก้ไขและปรับปรุง
  • ทำความสะอาดข้อมูล (Data Cleansing): มีส่วนร่วมในการทำความสะอาดข้อมูล แก้ไขข้อผิดพลาด และจัดการกับข้อมูลที่ซ้ำซ้อนหรือไม่สมบูรณ์

3) เข้าใจบริบททางธุรกิจของข้อมูล (Business Context)

  • รู้ความหมายของข้อมูล: ไม่ใช่แค่รู้ว่าข้อมูลคืออะไร แต่ต้องเข้าใจว่าข้อมูลนั้นมีความหมายอย่างไรในบริบททางธุรกิจ (Business Glossary/Data Dictionary)
  • มีส่วนร่วมในการนิยามข้อมูล: ร่วมกำหนดนิยามและคำจำกัดความของข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อให้ทุกคนในองค์กรเข้าใจตรงกัน

4) ปฏิบัติตามแนวทางด้านความปลอดภัยและการเข้าถึงข้อมูล (Data Security & Access)

  • จำกัดการเข้าถึง: เข้าถึงข้อมูลเฉพาะที่จำเป็นต่อการทำงานเท่านั้น และปฏิบัติตามสิทธิ์การเข้าถึงที่กำหนด
  • ปกป้องข้อมูลละเอียดอ่อน: ให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลสำคัญขององค์กรเป็นพิเศษ
  • รายงานเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย: หากพบการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือเหตุการณ์ที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของข้อมูล ควรรีบรายงานทันที

5) สร้างเอกสารประกอบข้อมูล (Data Documentation/Metadata Management)

  • จัดทำ Metadata: บันทึกข้อมูลเมตา (Metadata) ที่อธิบายเกี่ยวกับข้อมูล เช่น ที่มาของข้อมูล โครงสร้างข้อมูล ประเภทข้อมูล การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
  • จัดทำ Data Lineage: เข้าใจและบันทึกเส้นทางการเดินทางของข้อมูล ตั้งแต่แหล่งที่มา การประมวลผล ไปจนถึงการนำไปใช้งาน เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้

6) ส่งเสริมวัฒนธรรมข้อมูล (Data-Driven Culture)

  • สื่อสารและให้ความรู้: เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความตระหนักรู้และความสำคัญของ Data Governance ให้กับเพื่อนร่วมงาน
  • เป็นผู้ริเริ่ม: เสนอแนะแนวทางหรือเครื่องมือที่สามารถช่วยปรับปรุงกระบวนการ Data Governance ในทีมหรือในองค์กร

7) ทำงานร่วมกับ Data Stewards

  • เป็นพันธมิตร: Data Steward คือบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลข้อมูลในแต่ละโดเมน การทำงานร่วมกับ Data Steward อย่างใกล้ชิดจะช่วยให้การจัดการข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    Data Governance ไม่ใช่แค่เรื่องของฝ่าย IT หรือฝ่ายกฎหมาย แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคนที่ทำงานกับข้อมูล โดยเฉพาะคนทำงานสาย Data ที่ถือเป็นผู้ใช้และผู้สร้างข้อมูลโดยตรง การนำหลักการ Data Governance มาปรับใช้ในการทำงาน จะช่วยให้ข้อมูลเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่าและขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง